เที่ยวอุดรธานี – บึงกาฬ – หนองคาย (ตอนที่ 1)
โอเรียนต้า วิสต้า พาทุกท่านชมรีวิวการเที่ยวจังหวัด อุดรธานี – บึงกาฬ – หนองคาย กันจ้า
เริ่มจากตอนที่ 1 กันเลย …
EP 1. ถ้ำนาคา ภูลังกา
เที่ยวทิพย์ช่วงกักตัวล็อกดาวน์กันเพลินจนลืมส่งรูปรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ฮอตฮิต อย่างถ้ำนาคา ณ อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ ให้ท่านสมาชิกได้ชมกัน ช่วงนี้ยังมีคณะหลายกรุปเดินทางไปทั้งก่อนและหลังล็อกดาวน์เรียกว่า โอมิครอน ไม่สามารถฉุดให้กระแสการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวสาย “มู” หรือ มูเตลู ลงได้ บางท่านอาจมีคำถามว่า มูเตลู แปลว่าอะไร โดยย่อแล้วมีที่มาจากภาษาอินโดนีเซีย แปลคร่าวๆคือหมายถึง ความเชื่อเรื่องลี้ลับ มนต์มายา คาถา ไสยศาตร์ นั่นเอง
เข้าเรื่องกันเลยนะคะ (รูปจากทริปที่ไปเมื่อเดือน ธ ค ที่ผ่านมา )
จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 76 ของไทยที่แยกตัวออกมาจาก จ.หนองคาย ได้แค่ 10 ปีเศษ แต่การท่องเที่ยวของบึงกาฬนั้นตอนนี้แซงหน้าหนองคายไปเรียบร้อยแล้ว ดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นถ้ำนาคาอย่างเดียวก็ตกวันละ 500 คน เพราะทางอุทยานฯ ภูลังกาอนุญาตให้ขึ้นไม่เกิน 500 คนต่อวันและคิวเต็มทุกวันต้องจองกันล่วงหน้า ซึ่งทุกคนที่จองคิวต้องมีใบฉีดวัคซีนมาครบโดสแล้วถึงจะได้ขึ้นนะคะ และแม้ว่าทางจะเดินขึ้นค่อนข้างชันและปีนใช้เวลาเดินประมานสี่ กม. ขึ้นลงเขาก็หมดเวลาไป 4-5. ช.ม แต่ทุกคนที่ขึ้นก็ตั้งใจเกินร้อย อายุไม่มีความหมายเพราะอายุ 78 ปีก็ไปพิชิตกันมาแล้ว บางกลุ่มทานอาหารเจก่อนไปกราบไหว้ขอพรองค์นาคาด้านบนกันเลย
หนึ่งในจุด highlight คือตรงหินที่มีลักษณะคล้ายเศียรของพญานาค ซึ่ป็นมุมที่ต้องมีการเก็บภาพและขอพรกันทุกกรุป
เวลาไปส่งคณะขึ้นนี่เสมือนได้ส่งทีมชาติขึ้นไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรส หลายคนเตรียมความพร้อมมาอย่างดีได้รางวัลอุปรณ์ดีเด่น ทั้งถุงมือสำหรับสาวเชือก และไม้ช่วยพยุง เป้ แว่นตา หมวก น้ำ รองเท้าเดินที่ยึดเกาะพื้น เบาแต่คุณภาพดีเยี่ยม ส่วนยาดม ยาอม พัด นั้น ตัวช่วยที่ขึ้นไปพร้อมคณะอย่างเจ้าหน้าที่อาสาของอุทยานที่ประกบขึ้นทุกกรุปจะมีเตรียมพร้อมใว้ยามฉุกเฉิน เห็นน้องๆอาสาหุ่นบอบบางนี่วันนึงบางทีขึ้นลงสองถึงสามรอบนะจ่ะ ความแข็งแรงไม่ธรรมดา น้องอาสาบางคนบริการดีเป็นเลิศมีเอาโค๊กแช่เย็นขึ้นไปให้ลูกทัวร์เราได้ดี๊ด๊าด้านบนภูด้วย เรียกว่าทิปไม่อั้นกันเลยงานนี้ ช่วงนี้อากาศเย็นสบายเอื้อต่อการเที่ยวภูมาก ส่วนมากไปปีนกันแต่เช้ารอขึ้นก่อนอุทยานเปิดกันเลย เจ้าหน้าที่จะให้ขึ้นกันกรุปสุดท้ายไม่เกินบ่ายสองโมงเพราะต้องเผื่อเวลาตอนลงมาก็เกือบเย็น แต่บางคนก็ลงมาแบบวีไอพี ลงมาถึงตีนภูสี่ทุ่มก็มีบ้าง เช่นกรณีพิเศษ ไปเป็นตระคริวลงไม่ได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยหามลงมา
อีกมุมที่พลาดไม่ได้ที่ต้องบันทึกภาพใว้คือตรงหินที่มีลักษณะคล้ายลำตัวของพญานาค ที่เห็นเป็นการแตกของผิวหินเหมือนเกล็ดนาคนั้นทางธรณีเรียกว่า sun crack ในทางธรณีวิทยา เมื่อหินบนพื้นผิวโลกผ่านร้อนผ่านหนาวและผ่านกาลเวลามาซักระยะ หินก้อนใหญ่ๆ สามารถแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า กระบวนการผุพัง ซึ่งตามคติชาวบ้านหรือความเชื่อในท้องถิ่นบางส่วนเชื่อว่านี่คือร่างของพญานาคที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงปู่อือลือ ถูกสาปให้ร่างกลายเป็นหินติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้
หินในบริเวณภูลังกาส่วนมากเป็นหินทราย บางก้อนมีสีชมภู คล้ายหินที่สร้างปราสามหินพนมรุ้ง
หากยังไม่หมดแรงไปก่อน ถ้านบนภูลังกายังมีจุดอื่นๆที่น่าสนใจไปแวะสักการะ เช่นเจดีย์หลวงปู่วัง เจดีย์หลวงปู่เสาร์และจุดชมวิวตรงน้ำตกตาดวิมานทิพย์
บางท่านถามถึงถ้ำกินรีที่ก้องดงามเช่นกัน ถึงแม้ถ้ำกินรีจะที่อยู่บนภูลังกาเช่นกัน แต่ทางขึ้นนั้นจะต้องไปขึ้นฝั่งของทางจังหวัดนครพนม และใช้เวลาขึ้นลงประมานสามชั่วโมง ถ้าไปถ้ำนาคามาแล้วจะรู้สึกว่าถ้ำกินรีนั้นขึ้นง่ายกว่ามากคะ
แล้วพบกัน EP. หน้าคะ เราจะยังอยู่ที่ จ.บึงกาฬ กันคะ